ชื่อไม่เปลี่ยน ยังใช้ ณภาภัช ไม่ใช่ทั้ง สรพงษ์ - ประยุทธ์

ชื่อไม่เปลี่ยน ยังใช้ ณภาภัช ไม่ใช่ทั้ง สรพงษ์ - ประยุทธ์

จากเรื่องราวสุดวุ่ยวายของนายสรพงษ์ ที่ก่อนหน้านี้ เจ้าของร้านรับซื้อแบรนด์เนมมือสอง ไปกล่าวหาว่ากระเป๋าแอร์เมสของน้องชมพู่ ลูกค้านำมาขายเป็นของปลอม ซึ่งเจ้าตัวได้เขียนคำว่า ปลอม ลงบนกระเป๋า พร้อมท้าเปลี่ยนชื่อและจ่าย 2 ล้าน จนสุดท้ายพิสูจน์ได้ว่ากระเป๋าเป็นของจริง ทำให้โดนทัวร์ลงหนัก

หลังจากที่พิสูจน์ทุกอย่างแล้วว่า กระเป๋าแอร์เมส ของน้องชมพู่ เป็นของจริง ทำให้เกิดการฟ้องร้องกันขึ้น ซึ่งทั้ง ทีน่า แม่ค้ากระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง และน้องชมพู่ เจ้าของกระเป๋าเคยเผชิญหน้ากันในรายการโหนกระแสของหนุ่ม กรรชัย ก่อนที่จะได้ข้อสรุปได้ว่า ทีน่า จะยอมปลี่ยนชื่อ แต่เรื่องการจ่ายเงิน 2 ล้านนั้น ขอไปสู้ในชั้นศาล เพราะเธออ้างว่า เป็นแค่การพนันลอยๆ ทว่าหลังจากที่เธอบอกว่าจะเปลี่ยนชื่อ หลายคนก็เฝ้ารอที่จะเป็นบัตรประชาชน ทีน่า ณภาภัช กับชื่อใหม่ในบัตรของเธอ ซึ่งเธอเคยบอกว่า จะเปลี่ยนเป็น สรพงษ์ หรือไม่ก็ มงคลศักดิ์ ชื่อเดิมแต่เก่าก่อนที่พ่อและแม่ตั้งให้ ก่อนจะประกาศว่า ชื่อที่ตั้งใจจะเปลี่ยนในตอนแรกนั้น มีตัวกาลกิณี จึงจะขอเปลี่ยนชื่อเป็น ประยุทธ์ แทนเพราะชนะทุกสิ่ง

แต่ล่าสุด ดูเหมือนว่า เธอจะยังใช้ชื่อเดิมในวงการไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ซึ่งทางเพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้ระบุความคืบหน้าถึงเรื่องนี้ว่า "อ้าว ยังไม่เปลี่ยนชื่อ แล้วก็เตรียมฟ้องกลับ ยังชื่อ ณภาภัช ไม่ใช่ทั้ง สรพงษ์ ทั้ง ประยุทธ์ ทีน่า แม่ค้ากระเป๋าแบรนด์เนมเข้าปรึกษาทนายระยอง ขอความเป็นธรรม โดยนายณภาภัช เนตรระหงษ์ หรือ ทีน่า ได้เข้ามาปรึกษาทนายรายหนึ่งในจังหวัดระยอง พร้อมกับผู้จัดการส่วนตัว ก่อนเธอจะเปิดเผยว่า ได้เข้ามาปรึกษาทนาย กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมเรื่องถูกกระแสสังคมประจาน และเรื่องที่ถูกต่อว่าว่ายักยอกต่างๆ ทั้งที่จริงไม่ได้ยักยอก และไม่ได้เป็นไปตามที่ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ จนเกิดความเดือดร้อน

ทุกวันนี้ทำการค้าขายออนไลน์ไม่ได้ จึงเดินทางมาจังหวัดระยองเข้ามาปรึกษาทนายดังกล่าว เพื่อปรึกษาถึงการเตรียมฟ้องกลับ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง อีกทั้งยัง บอกอีกว่า ที่ผ่านมาเธอก็แสดงความบริสุทธิ์มาใจตลอด และก็ไม่ได้หนีไปไหน ส่วนเรื่องการเปลี่ยนชื่อนั้น ตนได้ไปแจ้งเปลี่ยนชื่อแล้วแต่ เจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก เดี๋ยวเรื่องก็เงียบเอง"

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ siamweek.com

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ