ไบรท์ พิชญทัฬห์

ไบรท์ พิชญทัฬห์

เปิดเส้นทางผู้ประกาศข่าว ไบร์ท ต้องเข้านอนตั้งแต่ 1 ทุ่ม ตื่นตี 2 ทุกวันเป็นเวลา 10 ปี ไบร์ท มีโอกาสได้มาแจ้งเกิดในฐานะผู้ประกาศข่าวอย่างเต็มตัวในรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ของทางช่อง 3 จัดรายการร่วมกับผู้ประกาศข่าวชื่อดังอย่าง สรยุทธ สุทัศนจินดา โดยสาวไบรท์ได้เริ่มเข้าไปทำงานในรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ หลังจากที่ กุ๊ก กฤติกา ได้ออกจากการทำงาน เพื่อไปใช้ชีวิตครอบครัว การทำงานกับสรยุทธช่วงนั้นทำให้สาวไบร์ท

ต้องตื่นตัวตลอดเวลา ตั้งแต่การตื่นนอนตอน 02.00 น. และออกจากบ้านมาที่สถานีไม่เกิน 03.30 น. เพื่อมาอ่านข่าวคนละปึกกับสรยุทธและโปรดิวเซอร์ เพราะไบร์ทเองไม่รู้ว่าสรยุทธจะส่งข่าวมาให้ตอนไหนและเมื่อไหร่ที่ต้องพูด ดังนั้นสาวไบร์ทจึงจำเป็นต้องอาศัยเทคนิคและสมาธิเพื่อที่จะตามข่าวให้ทัน ซึ่งเธอทำแบบนี้มาตลอดเวลา 10 ปี นอกจากนี้สาวไบรท์ยังเคย คว้ารางวัลนาฏราช สาขาผู้ประกาศข่าวยอดเยี่ยม ประเภทรายการโทรทัศน์อีกด้วย

และเธอก็ยังเคยได้รับรางวัลผู้ประกาศหญิงฟีเวอร์ ปี 2016 จาก Fever Awards 2016 และที่ผ่านมาเธอได้ลาจากหน้าจอไปสักพักใหญ่ สาเหตุที่ยังคงไม่กลับมาทำงานเนื่องจากขอดูแลคุณแม่ที่มีอาการป่วยเพื่อให้เวลากับการดูแลคุณแม่ ให้เต็มที่ก่อน ด้านชีวิตส่วนตัวสาวไบรท์คบหาดูใจกับหนุ่มโต๋ มานานกว่า 9 ปี โดยทั้งคู่เจอกันครั้งแรกในรายการ คนไทยที่หนึ่งในโลก ซึ่งขณะนั้นไบรท์เป็นพิธีกรหน้าใหม่และโต๋ไปในฐานะแขกรับเชิญรายการ

ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ จากนั้นทั้งคู่โคจรมาเจอกันอีกครั้งที่ช่อง 3 ทำให้ได้เจอกันบ่อยขึ้นและพัฒนาความสัมพันธ์ หนุ่มโต๋เคยเผยว่าอยู่กับน้องไบรท์แล้วมีความสุขเหมือนเพื่อนพี่น้อง คุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่ต้องมาประดิษฐ์ ที่ผ่านมา หนุ่มโต๋ทำเซอร์ไพรส์ขอไบรท์แต่งงานกลางรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ โดยบอกว่าได้ขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่ของสาวไบรท์แล้ว งานนี้ทำเอาสาวไบรท์ถึงกับหลั่งน้ำตากลางรายการ และเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา

ทั้งโต๋และไบรท์ก็ได้เข้าพิธีหมั้น โดยมี 2 ครอบครัวร่วมพิธีอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ณ ตอนนี้แม้ไบร์ทจะสูญเสียแม่ ไบร์ทได้บอกว่า ทุกการจากลามันเจ็บทุกข์ทรมานทั้งใจ ยิ่งมันการจากลาจากคนที่เรารักที่สุดแล้วด้วย มันก็คงเจ็บเศร้าทุกข์ แบบทวีคุณธรรม แต่จริง ๆ ถ้าเกิดมองในทางกลับกันไบรท์ก็คิดนะ ไบรท์บอกลาแม่แค่คนเดียว แต่แม่ต้องบอกลาคนที่แม่รักทั้งหมดเลย คิดว่าจริง ๆ คงต้องใช้เวลา ยินดีกับแม่ที่เขาไม่ต้องเจ็บ ทุกข์ทรมานจากอาการอีกต่อไป

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ