ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เปิดไม่กี่วันทำพิษ นักท่องเที่ยว โดนฟันค่าแท็กซี่เป็นพัน

ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เปิดไม่กี่วันทำพิษ นักท่องเที่ยว โดนฟันค่าแท็กซี่เป็นพัน

ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 จ.ภูเก็ต มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี หรือเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า โครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ซึ่งตั้งเป้าฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยให้ฟื้น หลังจากที่ทรุดฮวบเพราะโควิด 19 เป็นเวลานาน ถ้าหากโครงการนี้ประสบผลสำเร็จ ก็อาจจะมีแผนเปิดการท่องเที่ยวที่อื่นต่อไป เช่น เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

ล่าสุด วันที่ 4 กรกฎาคม 2564 ดูเหมือนว่า เปิดโครงการไม่ทันไรก็มีปัญหาร้องเรียนมาซะแล้ว เป็นปัญหาเดิม ๆ ที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศมักเจอประจำ เวลาที่มาท่องเที่ยวประเทศไทย นั่นคือ การคิดค่าโดยสารเกินราคา หรือการขายสินค้าเกินราคาโดยเรื่องนี้กลับมาแดงอีกครั้ง เมื่อมีนักท่องเที่ยวรายหนึ่งโพสต์ถามในกลุ่มท่องเที่ยวว่า "มีเรื่องด่วนที่จะถาม โรงแรมที่ฉันพักมีการคิดค่าโดยสารจากสนามบินภูเก็ตถึงป่าตอง 900 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ที่เคยมาจำได้ว่ามันไม่ได้แพงขนาดนี้"ขณะเดียวกันก็เห็นบางคนต้องจ่ายค่าโดยสาร 700 บาทเพื่อมาโรงแรม ดังนั้นจึงอยากรู้ว่า ถ้าหากเราเลือกที่จะเดินทางมาโรงแรมเองโดยที่โรงแรมไม่ต้องจัดให้ จะเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

นักท่องเที่ยวรายอื่นเข้ามาตอบอย่างพร้อมเพรียง แต่ละคนโดนราคาลมแทบจับ ต่อมา ก็มีนักท่องเที่ยวต่างชาติรายอื่น ๆ เข้ามาตอบถึงอัตราค่าโดยสารที่ตัวเองเจอตั้งแต่ก่อนที่จะมีโควิด-19 พบว่า อยู่ในระดับ 800-2,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นค่าโดยสารในอัตราที่สูงมาก หากเปรียบเทียบกับค่าครองชีพในประเทศไทย ทั้งนี้ มีบางคนโพสต์ว่า หลังจากที่ปิดประเทศไปนาน พอมีการเปิดการท่องเที่ยวแบบนี้ อาจจะทำให้มีการชาร์จราคาแพงกว่าก่อนช่วงโควิด

เหตุนี้เอง ทำให้นายณัฐธกรณ์ เรืองโรจน์ อุปนายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพภูเก็ต ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Nattakorn Ruengroj เตือนเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า นับเป็นปัญหาคลาสสิคของการท่องเที่ยวไทย แต่ก็อยากให้ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวเบา ๆ หน่อย เพราะนักท่องเที่ยวชุดแรกคือ พระเอกนางเอกที่จะโฆษณาการท่องเที่ยวภูเก็ต แบบที่เราไม่ต้องเสียเงิน อย่าเสียชื่อเสียงด้วยเรื่องเดิม ๆ อีกเลย ขณะบางคนก็มีการเสนอว่า จังหวัดควรมารวมตัวคุยกันได้แล้ว เพื่อกำหนดราคามาตรฐานที่เหมาะสมกับจังหวัด เพราะถ้าหากยังเป็นแบบนี้ ก็เหมือนกับการฆ่าตัวตายชัด ๆ ทั้งที่มีประสบการณ์กับการไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วว่ามันแย่แค่ไหน ทำแบบนี้อนาคตใครอยากจะมาเที่ยว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ